การฉายแสงเลเซอร์
1. วิธีนี้ได้ประโยชน์จากการทำงานของเลเซอร์กับสารไวแสงPHOTOFRIN
สามารถส่งผลต่อเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเทคนิคที่ไม่มีความเจ็บปวด ในปี 1996 องค์กร FDA ประเทศสหรัฐอเมริกาอนุมัติให้นำมาใช้กับโรคมะเร็ง และในปี 2003 องค์กร SFDA ประเทศจีนก็อนุมัติให้นำมาใช้ในกับผู้ป่วยโรคมะเร็งเช่นกัน
ฉีดสารไวแสง PHOTOFRIN เข้าไปในเส้นเลือดดำของผู้ป่วย เนื้อเยื่อมะเร็งจะดูดซึมยาไวแสง PHOTOFRIN ในปริมาณมาก แต่เนื้อเยื่อปกติจะดูดซึมสารไวแสงในปริมาณน้อย หลังจากนั้นจะยิงเลเซอร์เข้าไปที่ตัวมะเร็งซึ่งสารไวแสงนี้จะทำปฏิกิริยากับเลเซอร์ ส่งผลให้เซลล์มะเร็งมีความเสียหาย และก้อนเนื้อก็จะค่อยๆ หายไป
2.ขั้นตอนทางการแพทย์
ทำการผ่าตัด → ทำคีโม → การฉายรังสี → ทำการกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน → การด้วยเลเซอร์ ซึ่งเป็นลำดับที่ 5 ที่ได้รับความยอมรับในการใช้กับโรคมะเร็งระดับสากล
3.กระบวนการต่างๆ
(1)ฉีดยาไวแสง PHOTOFRIN ให้ผู้ป่วย
(2)หลังจากฉีดให้ผู้ป่วยแล้ว โดยปกติจะให้ผู้ป่วยพักผ่อนอยู่ในห้อง 40-50 ชั่วโมง
(3)การใช้เลเซอร์ยิงเข้าไปเนื้องอกเพื่อส่งผลต่อเซลล์มะเร็งโดยตรง
4.ข้อดี
(1)ไม่ทำร้ายร่างกาย——ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ความเจ็บปวดน้อย
(2)ระยะเวลาสั้น ซึ่งจะออกฤทธิ์ประมาณ 48 – 72 ชั่วโมง
(3)อาการแทรกซ้อนน้อย——เหมาะสมกับผู้เป็นมะเร็งมีอายุมากหรือร่างกายอ่อนแอ
(4)ประยุกต์ใช้กับโรคมะเร็งทุกชนิด
5.ผู้ป่วยที่เหมาะสม
มะเร็งช่องปาก
ประสิทธิภาพที่มีต่อมะเร็งช่องปากหรือมะเร็งโพรงจมูกในระยะแรกมีผลดี อยู่ระหว่าง 75% - 100%
มะเร็งหลอดอาหาร
วิธีการฉายเลเซอร์ (Photodynamic Therapy) สามารถใช้กับมะเร็งหลอดอาหารชนิดลุกลามที่ทำให้เกิดการอุดตันได้เป็นอย่างดี มะเร็งหลอดอาหารบริเวณส่วนบนได้ผลประสิทธิภาพสูง มะเร็งหลอดอาหารที่ลุกลามแพร่กระจายผ่านชั้นเยื่อบุลงไปได้ เนื้องอกให้ยุบลงได้
โรคหลอดอาหารBarret
การฉายเลเซอร์(Photodynamic Therapy)สามารถใช้กับรคหลอดอาหาร Barret ได้ และยังสามารถใช้ได้กับโรคมะเร็งต่อมหลอดอาหารระยะแรกได้อีกด้วย
มะเร็งปอด
เป็นมะเร็งปอดที่มีการอุดตันของหลอดลม การฉายเลเซอร์ จะไปลดการอุดตันของหลอดลม
ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งหลอดลมระยะเริ่มต้น วิธีนี้ทำให้มีโอกาสหายได้ถึง 90% ส่วนมะเร็งหลอดลมที่มีการแพร่กระจายและมีการอุดตันไปแล้วมีโอกาสหายได้ถึง 85%
มะเร็งกระเพาะอาหาร
การเลเซอร์(Photodynamic Therapy) สามารถทำให้มะเร็งกระเพาะอาหารระยะเริ่มต้นมีโอกาสหายถึง 80% และสามารถทำให้อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารระยะลุกลามให้ดีขึ้นได้อีกด้วย
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
วิธีนี้สามารถใช้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในระยะที่ยังไม่ลุกลามได้ มะเร็งในระยะที่มีการลุกลามแล้ววิธีการนี้สามารถทำให้อาการดีขึ้นได้ 71%
มะเร็งชนิดอื่นที่วิธีการนี้ให้ผลดี
มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งในช่องท้อง โดยเฉพาะมะเร็งท่อน้ำดีในตับ มะเร็งตับอ่อน เนื้องอกสมอง มะเร็งทางเดินระบบปัสสาวะ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งเยื่อหุ้มปอด เป็นต้น
ติดตามข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้ดีๆจากเราได้ที่
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
*หมายเหตุ : ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
*ประกาศ : การผ่าตัดจะให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดีต่อมะเร็งระยะแรก ที่เป็นมะเร็งชนิดเป็นก้อน (Solid Tumor) แต่อาจจะไม่เหมาะในการใช้กับมะเร็งระยะสุดท้าย สำหรับผู้ป่วยระยะกลาง ไปจนถึงระยะสุดท้ายที่มีภูมิต้านทานในร่างกายต่ำ เทคโนโลยีแบบบาดแผลเล็ก บูรณาการร่วมกับการคีโมและการฉายแสง จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วย ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น