การบำบัดมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 อย่างครอบคลุม ก้อนเนื้อร้ายแทบจะไม่เหลือแล้ว

   ผู้หญิง เปรียบเสมือนดั่งน้ำ แต่ก็สามารถเป็นเหล็กกล้าได้เช่นกัน  เธอผู้นี้ อายุ 45 ปีแล้ว แต่ยังใช้ชีวิตเพียงลำพัง จากประสบการณ์ที่เคยเห็นคุณป้า / คุณยายจากโลกนี้ไปด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก , โรคมะเร็งเต้านมที่ตนเองกำลังประสบพบเจอ , คุณแม่เป็นก้านสมองอัมพาตเฉียบพลัน จากนั้นมา เธอก็ตัดสินใจลุกขึ้นมาสู้ต่อไป เธอชื่อคุณอ้อย มาจากประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งผู้ป่วยที่มีจิตใจที่แข็งแกร่ง และ แน่วแน่กับการต่อสู้กับโรคมะเร็งเต้านมของเธอ เมื่อปี 2016 เดือนพฤษจิกายนที่ผ่านมา ภายใต้การบำบัดอย่างครอบคลุม ณ รพ.มะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด 

กิจกรรม “ต้านมะเร็งเต้านม เพื่อชีวิตที่ยืนยาว” 18 ตุลาคม ณ รพ.มะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด

   คุณอ้อย (ขวามือคนที่สอง) อาสาสมัครที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์การเป็นมะเร็งเต้านม มีลางสังหรณ์มาตั้งนานแล้วว่าตนเองจะต้องเป็นมะเร็ง

   ช่วงเดือนมีนาคม ในปี 2013 ขณะที่เข้ารับการตรวจร่างกายประจำปีนั้น คุณอ้อยได้ตรวจพบว่ามีก้อนเนื้อบริเวณรักแร้ขวาขนาด 1cm  จากผลตรวจชิ้นเนื้อปรากฏว่าเป็นมะเร็งเต้านม แต่แทนที่คุณอ้อยจะรู้สึกกลัว หรือรู้สึกตกใจ คุณอ้อยกลับแตกต่างออกไปจากผู้ป่วยท่านอื่น ๆ  คุณอ้อยได้กล่าวอย่างสงบว่า “ ดิฉันมีลางสังหรณ์ตั้งนานแล้วว่าตัวเองจะต้องเป็นมะเร็งเข้าสักวัน ทั้งคุณป้า และ คุณยายของพวกเราก็เป็นผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก นี่อาจจะเป็นยีนที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมก็เป็นได้ ” โดยแพทย์ก็ได้แนะนำให้ผ่าตัดก้อนเนื้อร้ายออก แต่คุณอ้อยก็ปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า “ ดิฉันเคยได้ยินมาว่าการผ่าตัดนั้น จะส่งผลให้เซลล์มะเร็งลุกลาม หรือ แพร่กระจายได้ ”

   คุณอ้อยผู้เป็นตัวแทนอาสาสมัครเข้าเยี่ยมผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ณ ร.พ. มะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด

   คุณอ้อยได้ยินมาว่ามีการบำบัดโรคมะเร็งด้วยสมุนไพรชนิดหนึ่งในท้องถิ่น ประสิทธิภาพไม่เลวเลยทีเดียว แต่ระยะทางก็ไกลเหลือเกิน จะต้องใช้เวลาเดินทางเป็นเวลากว่า 5-6 ชั่วโมง เพราะเหตุนี้ คุณอ้อยก็เลยต้องออกเดินทางตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง โดยต้องเดินทางไปแบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์ “ ออกเดินทางตี 2 และถึงปลายทางตอน 7 โมงเช้า รับยาเสร็จเดินทางกลับ กว่าจะกลับถึงบ้านก็บ่าย 4 โมงเข้าไปแล้ว ” เป็นแบบนี้มากว่า 2 ปี และแล้ว ในปี 2015 เรื่องร้าย ๆ ก็ประเดประดังเข้ามา คุณแม่ของคุณอ้อยเกิดอาการก้านสมองเป็นอัมพาตเฉียบพลัน นอนอัมพาตอยู่บนเตียง ด้วยเหตุที่ต้องดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิด จึงทำให้คุณอ้อยต้องหยุดยาไปชั่วคราว

 คุณอ้อยได้เข้าเยี่ยมผู้ป่วยมะเร็งท่านอื่นในฐานะ "ผู้ป่วยตัวอย่าง"

   ในขณะที่คุณอ้อยไม่มีเวลาที่จะใส่ใจอาการป่วยของตนเอง เนื้อร้ายก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นอย่างเงียบ ๆ เวลาปีครึ่งผ่านไป ก็สามารถมองเห็นก้อนเนื้อได้ด้วยตาเปล่า ขนาดก้อนเนื้อได้ขยายใหญ่เท่ากับขนาดครึ่งหนึ่งของไข่ไก่แล้ว คุณอ้อยเริ่มรู้สึกหวาดกลัวเป็นครั้งแรก เธอตัดสินใจแล้วว่าจะหาวิธีบำบัดอย่างจริงจังสักที  วันที่ 26 กรกฏาคม 2016 คุณอ้อยได้เข้ามาที่รพ.มะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด จากการวินิจฉัยแล้ว ระบุได้ว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่สามแล้ว  อยู่ตรงรักแร้ขวา และได้แพร่กระจายไปยังกระดูกไหปลาร้าบน-ล่าง ไปจนถึงต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคออีกด้วย

   ภายใต้การดูแลบำบัดของทีมแพทย์ MDT ของรพ.มะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด คุณอ้อยได้เข้ารับการบำบัดแบบเฉพาะจุดโดยทันที หลังการผ่าตัดปรากฏว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวในไขกระดูกลดต่ำลง  ทีมแพทย์จึงได้ทำการบำบัดโดยเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาวให้ผู้ป่วย จนสุดท้ายระดับเซลล์เม็ดเลือดขาวก็กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ  แพทย์หญิงโจว อ้าย เจียว แพทย์เจ้าของไข้ได้กล่าวว่า 5 สัปดาห์ก่อนหน้าที่ได้รับการบำบัดแบบเฉพาะจุดอย่างครอบคลุมนั้น  สุขภาพจิตก็ดีมาก  คุณอ้อยที่มาเยือนประเทศจีนครั้งแรก ก็ไม่มีความรู้สึกไม่คุ้นชินแต่อย่างใด  เธอกล่าวว่า “ถึงแม้จะต้องเดินทางมาบำบัดยังต่างประเทศ แต่ก็มีการบริการด้านภาษาตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีอุปสรรคในการสื่อสารใด ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว การใช้ชีวิตก็สะดวกสบาย อยากทานอะไรก็สามารถทำทานเองได้เลย ”

กิจกรรม"ต่อด้านมะเร็งเต้านม เพื่อชีวิตที่ยืนยัน" 18 ตุลาคม ณ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด

แม่ คือแรงผลักดันในการเข้ารับการบำบัดของดิฉัน

   คุณอ้อยพี่น้องทั้งหมด 4 คน แต่ที่แม่เป็นห่วงที่สุดก็คือคุณอ้อย “เพราะว่าดิฉันยังไม่มีครอบครัว แม่มักจะเป็นห่วงดิฉันว่าจะไม่มีคนดูแล” จากที่เข้าใจ ตอนที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แม่รู้สึกทรมานใจ คุณอ้อยเลยได้โกหกแม่ว่า “แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หมอบอกว่าหนูไม่ได้เป็นอะไรเลย” แต่แม่ก็สามารอ่านใจลูกสาวออกทะลุปรุโปร่ง เลยได้ทำการขู่แกมบังคับว่า “ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ลูกต้องบอกแม่ให้หมด แม่รับได้”  คุณอ้อยเลยจำต้องบอกความจริงแก่แม่ หลังจากรู้ความจริงแล้ว แม่ก็ปลอบว่า “ไม่เป็นไรนะลูก มะเร็งเต้านมสามารถบำบัดให้หายได้” ต่อให้นอนอยู่บนเตียงรพ. แม่ก็ยังโทรเข้ามาถามอาการคุณอ้อยอยู่ไม่ขาด “วันนี้ดีขึ้นหรือยัง?” , “ต้องพักผ่อนมาก ๆ ให้ความร่วมมือกับแพทย์ดี ๆ นะ”

   คุณอ้อยถ่ายภาพร่วมกับพยาบาล ณ รพ.มะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด

   คุณอ้อยก็ทั้งรัก และ เคารพแม่มาก ๆ ในปี 2015 ก้านสมองเป็นอัมพาตฉับพลัน อยู่ในอันตราย แพทย์ได้เตือนว่า “ครั้งนี้อาจจะไม่รอด” คุณอ้อยฟังแล้วก็น้ำตาไหลไม่หยุด และ ณ ตอนนั้น เธอได้ตั้งมั่นไว้อย่างเงียบ ๆ ว่า ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน จะต้องให้แม่ดีขึ้นให้ได้ ตั้งใจดูแลแม่ให้ดีที่สุด คุณอ้อยผู้กตัญญูได้ตัดใจการบำบัดตัวเอง และโชคยังเข้าข้าง ความอดทนที่มาจากความรักบริสุทธิ์ ในที่สุดแม่ก็ได้พ้นขีดอันตรายแล้ว และเพื่อจะมีแรงในการดูแลแม่ต่อไป ระหว่างเข้ารับการบำบัดคุณอ้อยก็พยายามให้กำลังใจตัวเองอยู่เรื่อย ๆ อธิษฐานให้ตัวเองดีขึ้น คุณอ้อยทิ้งท้ายว่า “แม่ คือแรงผลักดันในการเข้ารับการบำบัดของดิฉัน”

**หมายเหตุ : ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล