- ข่าวสารโรคมะเร็ง
- ■ มะเร็งถุงน้ำดี
- ■ อาการของโรคมะเร็งถุงน้ำดี
- ■ ขั้นตอนทางการแพทย์สำหรับมะเร็งถุงน้ำดี
- ■ เรื่องราวของผู้ป่วยมะเร็งถุงน้ำดี
อาการในระยะแรกของมะเร็งถุงน้ำดีไม่มีลักษณะเฉพาะ การตรวจวินิจฉัยจึงค่อนข้างลำบาก เมื่อผู้ป่วยพบว่ามีอาการน่าสงสัยคล้ายอาการมะเร็งถุงน้ำดี การรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลทันทีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ขณะเดียวกันการตรวจตามกำหนดทุกปีก็จำเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน เพราะทำให้สามารถพบปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดีได้ทันที เนื่องด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีทางการแพทย์ เทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยมะเร็งถุงน้ำดีจึงได้รับการยกระดับให้สูงขึ้นเช่นกัน ทำให้สามารถวินิจฉัยระยะอาการของผู้ป่วยได้แน่ชัด ช่วยให้แพทย์กำหนดแผนทางการแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น
วิธีการตรวจวินิจฉัยมะเร็งถุงน้ำดีมีอะไรบ้าง
1. การตรวจอัลตราซาวด์ : อัตราความแม่นยำของการตรวจอัลตราซาวด์สูงถึง 90% ขึ้นไป เป็นวิธีตรวจวินิจฉัยอันดับแรกของมะเร็งถุงน้ำดี สามารถแสดงให้เห็นขนาดของรอยโรคถุงน้ำดี วิเคราะห์ว่ามีกลไกการเกิดมะเร็งเกิดขึ้นหรือไม่ มีการลุกลามไปต่อมน้ำเหลืองอย่างเห็นได้ชัดหรือไม่ รวมทั้งตับทำงานหนักหรือไม่ ดังนั้นผู้ป่วยที่เจ็บปวดบริเวณเอวด้านขวาบนและมีก้อนเนื้อบริเวณเอวด้านขวาบน สามารถทำการตรวจด้วยวิธีนี้ได้
2. การตรวจ CT สแกน : การตรวจวินิจฉัยมะเร็งถุงน้ำดีในระยะแรกโดยการตรวจ CT สแกนจะไม่ดีเท่ากับการตรวจอัลตราซาวด์ แต่สำหรับผู้ป่วยที่ตรวจอัลตราซาวด์แล้วพบว่า มีความน่าสงสัยที่จะเป็นมะเร็งถุงน้ำดีสูง การตรวจ CT ก็มีความจำเป็นด้วย หากมะเร็งมีการรุกล้ำไปตับหรือลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองที่เกี่ยวข้องก็จะสามารถมองเห็นได้ภายใต้ภาพ CT สแกน
3. การตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) : โดยทั่วไปแล้วจะไม่ใช่วิธีการตรวจวินิจฉัยอันดับแรกหรือวิธีที่จำเป็นต้องตรวจ เพียงแต่ใช้วิเคราะห์ว่ารอยโรคเกี่ยวพันไปถึงตับหรือไม่ หรือเมื่อผู้ป่วยมีอาการดีซ่านจากการอุดตันก็สามารถพิจารณาเลือกใช้การตรวจ MRI ได้ ซึ่งอัตราความแม่นยำจะใกล้เคียงกับการตรวจ CT แต่มีข้อดีคือจะไม่มีการทำลายจากรังสี สามารถตรวจซ้ำได้หลายครั้ง
4. PET – CT : เป็นการตรวจในลักษณะเชิงคุณภาพ หากตัดกรณีที่มีโรคถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลันออก วิธีการนี้มีส่วนช่วยในการตรวจวินิจฉัยรอยโรคที่อยู่บริเวณถุงน้ำดีในเชิงคุณภาพได้ อีกทั้งมีส่วนช่วยในการวิเคราะห์ว่ามีรอยโรคนอกถุงน้ำดีหรือไม่
5. การตรวจสารบ่งชี้มะเร็งในเซรั่ม : เมื่อถุงน้ำดีเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็ง โดยทั่วไประดับสารบ่งชี้มะเร็งจะสูงขึ้น การตรวจสารบ่งชี้มะเร็งในเซรั่มว่าสูงขึ้นหรือไม่นั้นมีส่วนช่วยในการตรวจวินิจฉัยมะเร็งถุงน้ำดี แต่การเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งในระยะแรกอาจจะไม่ปรากฏให้ว่ามีการเพิ่มสูงขึ้น หากผู้ป่วยมีอาการมะเร็งถุงน้ำดีระยะสุดท้าย สามารถทำการตรวจด้วยวิธีนี้ได้ เพื่อวินิจฉัยการพัฒนาของโรคให้แน่ชัด
ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเตือนว่า : เมื่อการตรวจอัลตราซาวด์พบว่า มีรอยโรคบริเวณถุงน้ำดีหรือเมื่อผนังถุงน้ำดีหนาขึ้นอย่างผิดปกติ ต้องทำการทดลองและตรวจอีกขั้น เพื่อวินิจฉัยให้แน่ชัดว่าเป็นมะเร็งถุงน้ำดีหรือไม่ การตรวจวินิจฉัยที่แน่ชัดสามารถช่วยให้ผู้ป่วยเลือกแผนทางการแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น
ติดตามข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้ดีๆจากเราได้ที่
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
*หมายเหตุ : ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
*ประกาศ : การผ่าตัดจะให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดีต่อมะเร็งระยะแรก ที่เป็นมะเร็งชนิดเป็นก้อน (Solid Tumor) แต่อาจจะไม่เหมาะในการใช้กับมะเร็งระยะสุดท้าย สำหรับผู้ป่วยระยะกลาง ไปจนถึงระยะสุดท้ายที่มีภูมิต้านทานในร่างกายต่ำ เทคโนโลยีแบบบาดแผลเล็ก บูรณาการร่วมกับการคีโมและการฉายแสง จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วย ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น