มะเร็งลำไส้ใหญ่คือการเกิดเนื้องอกร้ายขึ้นที่ระบบย่อยอาหารซึ่งพบเห็นได้บ่อยที่สุดและมีผลกระทบต่อสุขภาพของคนเราเป็นอย่างมาก ในช่วงแรกของมะเร็งลำไส้ใหญ่จะมีอาการที่ไม่ชัดเจนมากนักหรือจะแสดงออกมาเป็นอาการก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็งเท่านั้น แต่เมื่อมะเร็งมีการเติบโตมากขึ้นก็จะทำให้มีอาการต่างๆแสดงออกมาอย่างชัดเจน

　　อาการมะเร็งลำไส้

　　(1)อาการปวดที่ท้องและท่อย่อยอาหาร ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่จะมีอาการปวดท้องและความผิดปกติบริเวณท้องในระดับที่แตกต่างกันไป เช่น อาจจะเจ็บบ้างไม่เจ็บบ้าง บริเวณซ้ายของท้องบวมขึ้น คลื่นไส้ อาเจียน ไม่อยากอาหารเป็นต้น บางครั้งอาจจะมีอาการของท้องร่วงและท้องผูกสลับกันไป อีกทั้งด้านขวาล่างของท้องมักจะพบอาการไส้ติ่งอักเสบแบบเรื้อรัง โดยทั่วไปแล้วคิดว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่บริเวณข้างขวาของท้องมักจะทำให้ส่วนเหนือสะดือขึ้นมามีอาการปวด ถ้าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่บริเวณด้านข้างซ้ายแล้วก็จะทำให้เจ็บปวดบริเวณด้านล่างของสะดือ ถ้ามะเร็งมีการทะลุผนังลำไส้ไปก็จะทำให้มีการอักเสบของการเกาะติดกันในบริเวณบางส่วน หรือเมื่อมีอาการทะลุแบบเรื้อรังแล้วก็จะกลายเป็นอาการที่บวมบางส่วน และบริเวณที่มีอาการปวดนั้นก็จะเป็นตำแหน่งของมะเร็งนั่นเอง

　　(2)ท้องบวม ปกติแล้วอาการนี้จะมีรูปร่างที่ไม่แน่นอน แต่จะมีลักษณะแข็งและนูนขึ้นมา ในช่วงระยะแรกของมะเร็งRadical correction of Colon transversum carcinoma และมะเร็งSigmoid Colon Cancerมักจะเกิดอาการบวมบริเวณท้องแบบที่เคลื่อนไหวได้จึงทำให้มีอาการกดทับบริเวณท้องจนเกิดอาการปวด

　　(3)นิสัยในการขับถ่ายและรูปร่างของอุจจาระเปลี่ยนแปลงไป นี่เป็นผลที่เกิดจากการที่มะเร็งตายลงจนกลายเป็นแผลเปื่อยและเกิดการติดเชื้อ เพราะมีสารไวรัสมากระตุ้นมะเร็งลำไส้ใหญ่จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการขับถ่าย อาจจะทำให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นหรือลดลง และมีอาการท้องร่วงและท้องผูกปรากฎขึ้น หรือก่อนที่จะถ่ายก็จะมีอาการปวดที่ท้องก่อนแต่เมื่อถ่ายเรียบร้อยแล้วอาการปวดก็จะลดลง ถ้าตำแหน่งของมะเร็งค่อนข้างต่ำหรือใกล้กับลำไส้ตรงก็จะทำให้มีอาการปวดทวารหนัก ถ่ายไม่คล่อง หรืออาการลำไส้ตรงถูกกระตุ้น เป็นต้น นอกจากนี้ถ้าอุจจาระมีลักษณะที่เป็นแบบเหนียวหรือมีของเหลวเหนียวๆ หนองเลือดหรือมีเลือดออกมากก็มักจะถูกวินิจฉัยผิดว่าเป็นโรคบิด ลำไส้อักเสบ ริดสีดวงทวารมีเลือดออก เป็นต้น

　　(4)อาการโลหิตจางและการดูดซับไวรัสแบบเรื้อรัง เมื่อเนื้องอกมะเร็งตายจนกลายเป็นแผลเปื่อยก็จะทำให้ท่อลำไส้มีเลือดซึมหรือมีเลือดผสมมากับอุจจาระที่เป็นบ่อเกิดของมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้จึงควรระวัง แต่ก็อาจะเป็นเพราะการเสียเลือดแบบเรื้อรัง การดูดซับไวรัสและการกินอาหารที่ไม่มีโภชนาการทำให้มีอาการโลหิตจาง ผอมลง ไร้เรี่ยวแรงหรือน้ำหนักลดลงเป็นต้น ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะสุดท้ายจะมีอาการบวมน้ำ ตับใหญ่ ท้องมีน้ำ โปรตีนในเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง อาการแย่ลงเป็นต้น ถ้ามะเร็งมีการทะลุไปยังท้อง ม้ามหรืออวัยวะอื่นๆจนกลายเป็นอาการรั่วก็จะทำให้เกิดอาการที่เกี่ยวข้องได้

　　เชื่อว่าทุกท่านน่าจะมีความเข้าใจในมะเร็งลำไส้ใหญ่บ้างแล้ว ถ้ายังไม่ส่วนใดที่ไม่เข้าใจทางเราก็มีความยินดีที่จะมาสอบถามกับทางโรงพยาบาลของเรา เพราะถ้าหากว่าท่านมีความเข้าใจในโรคนี้แล้วก็จะทำให้ท่านตรวจพบโรคนี้ได้ทันท่วงที และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพทางการแพทย์ รวมถึงยืดชีวิตของท่านได้ด้วย

　　สำหรับผู้ป่วยทุกๆท่านที่มาเข้ามาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวของเรา ก็จะได้รับแผนทางการแพทย์แบบเฉพาะและมีความเหมาะสมกับตัวผู้ป่วยทุกท่านเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาล ในขณะเดียวกันโรงพยาบาลของเราก็ได้มีการรวบรวมเอาความฉลาดหลักแหลมของผู้เชี่ยวชาญมาเปิดเป็นรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Minimally invasive targeted หลอมรวมแพทย์แผนจีนและตะวันตกให้เป็นหนึ่งเดียว โดยนำเอาแพทย์แผนจีนและเทคนิคแบบ Photodynamic มาใช้ร่วมกัน

　　คีโม การสร้างแบบภูมิคุ้มกันการทำไอเย็นและการเทคนิคแบบบาดแผลเล็กอีกสิบสองแบบมาผสมรวมกัน กล่าวคือเป็นการนำข้อดีที่สุดของแพทย์แผนจีนและตะวันตกมารวมเข้าเดียวกันจนทำให้สามารุปรับสภาพร่างกายของผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ให้มีความสมดุลย์จนทำให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม หนึ่งในนั้นคือการทำคีโมก็ถือเป็นวิธีแรกที่ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่เลือก แต่เพราะการทำคีโมแบบนี้จะใช้ยาใส่เข้าไปเป็นหลักเพราะว่าผู้ป่วยบางท่านไม่สามารถใส่ตัวยาเข้าไปในหลอดเลือดได้ ส่วนการเทคนิคแบบภูมิคุ้มกันจากสิ่งมีชีวิตเป็นการนำเซลล์ภูมิคุ้มกันที่มีความสามารถในการคุ้มกันเนื้องอกที่มีชีวิตเข้าสู่ร่างกายผู้ป่วย โดยเซลล์ภูมิคุ้มกันนี้จะไปกระตุ้นเนื้องอกโดยตรง ทำให้ในขณะที่ยังอยู่ในขั้นตอนทางการแพทย์ ก็ยังสามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยและให้สุขภาพมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น

　　ทางโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้มีการก่อตั้งศูนย์ให้บริการในหลายๆประเทศ เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมภูชา อินนีเซีย ไทย เป็นต้น และในทุกๆปีก็จะมีผู้ป่วยมะเร็งๆจากหลายๆประเทศเข้ามาอยู่ในความดูแลของเราเป็นจำนวนมาก ครอบคลุมหลากหลายประเทศของโลก

　　ในขณะเดียวกันเพื่อไม่ให้เป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ป่วย ทางโรงพยาบาลของเราก็จะให้การบริการทางการแพทย์ที่ดีที่สุดกับผู้ป่วย ในอีกด้านก็จะเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่างๆให้สูงขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้แล้วยังเพิ่มวิธีการติดต่อพูดคุยกันระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ให้หลากหลายมากขึ้นด้วย เช่น การสอบถามออนไลน์ อีเมลล์ โทรศัพท์หรือการพูดคุยกันต่อตัวเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยทุกท่านให้สามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งได้อย่างดีที่สุด