- ข่าวสารโรคมะเร็ง
- ■ มะเร็งช่องปาก
- ■ การวินิจฉัยมะเร็งช่องปาก
- ■ ขั้นตอนทางการแพทย์สำหรับมะเร็งช่องปาก
- ■ เริองราวของผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก
มะเร็งในช่องปากเป็นเนื้อร้ายที่พบบ่อยในช่องปาก อาการเริ่มแรกของมะเร็งในช่องปากมีความคล้ายคลึงกับแผลในช่องปาก ผู้ป่วยระยะแรกจำนวนมากมักจะเข้าใจผิดโดยคิดว่ามะเร็งปากช่องปากที่เป็นนั้น เป็นเพียงแผลในช่องปากหรือโรคในช่องปากอื่นๆ จนทำให้พลาดช่วงโอกาสที่ดี ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กวางโจวจึงแนะนำว่า เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวท่านเอง จะต้องทำความเข้าใจต่ออาการน่าสงสัยเกี่ยวกับมะเร็งช่องปาก
อาการมะเร็งในช่องปาก
1.โดยทั่วไปอาการมะเร็งช่องปากในระยะแรก ไม่มีความเจ็บปวด หรือเพียงแค่มีความรู้สึกเสียดสีผิดปกติบริเวณใดบริเวณหนึ่งในช่องปาก หากปรากฏแผลแตกในช่องปากจะมีอาการเจ็บอย่างเด่นชัด ตามการพัฒนาของเนื้องอกจะลุกลามไปยังประสาทที่อยู่รอบๆ และยังสามารถนำมาซึ่งอาการเจ็บบริเวณหูและคอ
2.การเปลี่ยนแปลงของเยื่อเมือกในช่องปาก : เยื่อเมือกในช่องปากหากเปลี่ยนเป็นสีขาวสีน้ำตาลหรือสีดำหมายถึงเซลล์ผิวของเยื่อเมือกด้านบนเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวของเยื่อเมือกช่องปากจะเปลี่ยนเป็นลักษณะหยาบ หนา หรือแสดงให้เห็นถึงก้อนที่มีลักษณะแข็ง ปรากฏเยื่อเมือกของช่องปากเป็นจุดสีขาวหรือสีแดง เป็นไปได้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็งแล้ว
3.แผลที่ไม่หาย : โดยทั่วไประยะเวลาการเป็นแผลของโรคในช่องปากจะไม่เกินสองสัปดาห์ หากมีอาการปวด รู้สึกแสบร้อน เป็นต้น เกินสองสัปดาห์แล้วยังคงไม่หาย จำเป็นต้องระมัดระวังความเป็นไปได้ของการเป็นมะเร็งช่องปาก ในเวลานี้ การตรวจด้วยเครื่องมือถ่ายภาพทางการแพทย์ และการตรวจชิ้นเนื้อสามารถช่วยวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง
4.ต่อมน้ำเหลืองโต : มะเร็งช่องปากมักจะมีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้บริเวณคอ บางครั้งตำแหน่งที่ก่อให้เกิดโรคมีขนาดเล็กมาก หรือกระทั่งไม่มีอาการที่แสดงออกอย่างเด่นชัด แต่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอกลับพบการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ด้วยเหตุนี้ทำให้ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอบวมโตผิดปกติ จึงจำเป็นต้องมีการตรวจด้วย CT สแกน เพื่อช่วยตรวจสอบว่ามีการแพร่กระจายหรือไม่
5.อาการเลือดออกในช่องปาก : อาการเลือดออกในช่องปากเป็นสัญญาณอันตรายของมะเร็งช่องปาก สาเหตุเป็นเพราะเนื้องอกที่อยู่ภายในช่องปากเมื่อถูกกระทบก็ทำให้ปรากฏอาการเลือดออก
6.สมรรถภาพการทำงานลดลง : เนื้องอกสามารถลุกลามเข้าไปกล้ามเนื้อบริเวณปากและข้อต่อกระดูกขากรรไกร ทำให้ไปจำกัดการเคลื่อนไหวในการอ้าหรือหุบปาก นำมาซึ่งความยากลำบากในการอ้าหรือหุบปาก
7.การเปลี่ยนแปลงของกระดูกขากรรไกรและฟัน : กระดูกขากรรไกรโตขึ้น ทำให้หน้าทั้งสองข้างไม่สมส่วน ปรากฏอาการฟันโยกหรือหลุด ขณะรับประทานอาหารใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ดี ผู้ใส่ฟันปลอมรู้สึกไม่สบายกับฟันปลอมที่ใส่อยู่ ชาและปวดบริเวณส่วนช่องปากหรือคอหอย โดยทั่วไปผู้ที่ไม่มีอาการดีขึ้น จะต้องระวังโรคมะเร็งในช่องปาก
8.การเคลื่อนไหวและความรู้สึก : การเคลื่อนไหวของลิ้นถูกจำกัด ส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร การกลืน หรือลำบากในการพูด หรือลิ้นซีกหนึ่งมีอาการชาหรือไม่มีความรู้สึก
นอกจากนี้ยังมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ความผิดปกติของเส้นประสาทบริเวณหน้า รู้สึกชา จมูกมีเลือดไหลโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นต้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเตือนท่านว่า อาการด้านบนเป็นอาการที่พบโดยทั่วไปของผู้ที่เป็นมะเร็งช่องปาก แต่ไม่สามารถนำอาการข้างต้นทั้งหมดมาใช้ในการประเมินว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ เพราะว่าโรคในอักเสบในช่องปากก็สามารถปรากฏอาการดังกล่าวข้างต้นได้ วิธีการที่ดีที่สุดคือรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างเร็วที่สุด การวินิฉัยที่แน่ชัด จะช่วยให้ถูกกับโรคมากยิ่งขึ้น
ติดตามข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้ดีๆจากเราได้ที่
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
*หมายเหตุ : ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
*ประกาศ : การผ่าตัดจะให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดีต่อมะเร็งระยะแรก ที่เป็นมะเร็งชนิดเป็นก้อน (Solid Tumor) แต่อาจจะไม่เหมาะในการใช้กับมะเร็งระยะสุดท้าย สำหรับผู้ป่วยระยะกลาง ไปจนถึงระยะสุดท้ายที่มีภูมิต้านทานในร่างกายต่ำ เทคโนโลยีแบบบาดแผลเล็ก บูรณาการร่วมกับการคีโมและการฉายแสง จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วย ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น