เนื่องจากสิ่งแวดล้อมการทำงานและสิ่งแวดล้อมชีวิตความเป็นอยู่ไม่ดี ทำให้อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีจำนวนผู้ป่วยไม่น้อยยังไม่รู้จากอาการของมะเร็งผิวหนัง ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กล่าวว่า เพราะไม่รู้จากอาการมะเร็งผิวหนังจะทำให้ไม่สามารถตรวจพบโรคให้ทันเวลา สิ่งสำคัญที่สุดของโรคมะเร็งผิวหนังคือการค้นพบตั้งแต่แรกเริ่ม มะเร็งผิวหนังมีอาการอย่างไรบ้าง

　　อาการของโรคมะเร็งผิวหนัง

　　1.มะเร็งผิวหนังชนิด(สความัส Squamousเซลล์มีรูปร่างแบน) ส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์โรคขนคุด โรคเยื่อบุ่ผิวเป็นผื่นสีขาวและโรคอื่นๆที่กลายพันธ์เป็นมะเร็งผิวหนังได้ โรคชนิดนี้มีลักษณะโตเร็ว ในระยะแรกเป็นแผลบนผิวหนัง เป็นตุ่มแข็งนูนขึ้นมาบนผิวให้สัมผัสขรุขระเมื่อลูบดู และดูรูปแบบเหมือนดอกไม้ของผักหรือรูปแบบเหมือนผีเสื้อ ที่ลึกๆเข้าไปผิวหนังมักจะรุกลามเป็นพื้นใหญ่ มีลักษณะร้ายแรง โดยทั่วไปจะลามไปกระดูกและมีอาการเป็นหนอง มีกลิ่นมาก มีอาการปวดเป็นต้น หากโรคเป็นที่บริเวณศิรษะ จะมีอาการเป็นหนองเยอะมากและเลือดออกง่าย ลามไปต่อมน้ำเหลืองที่คอเร็ว

　　2.มะเร็งผิวหนัง Basal cell carcinomaเป็นมะเร็งผิวหนังที่พบบ่อยที่สุด เชื่อว่าเกิดจากการสัมผัสแสงแดดมากเพราะชีวิตคนอยู่นอกบ้านมากกว่าในบ้าน มะเร็งชนิดนี้แพร่กระจายช้า หากตรวจพบโดยเร็ว ประสิทธิภาพทางการแพทย์ก็จะสูงขึ้น พบมากที่บริเวณที่เจอแสงแดดมากเช่น ในหน้า จมูกหนังศีรษะ หู จมูก หน้าอก หลัง ขา มีด้วยกันหลายลักษณะดังนี้ ลักษณะจะเป็นก้อนกลมนูนสีขาว อาจจะเห็นเส้นเลือดที่ผิวของเนื้องอก หลายคนอาจจะมีลักษณะเหมือนสิวที่เป็นๆหายๆ บางคนจะมีลักษณะก้อนแบนๆเหมือนไขมัน

　　3.มะเร็งผิวหนังชนิด(สความัสSquamousเซลล์มีรูปร่างแบน)ปกติเป็นอยู่ในกลุ่มคนอายุ30～50ปี มะเร็งผิวหนัง Basal cell carcinomaปกติจะเกิดในผู้อายุ50ปีขึ้นไป และมะเร็งผิวหนังชนิด(สความัส Squamousเซลล์มีรูปร่างแบน)อาการพัฒนาเร็ว มะเร็งผิวหนัง Basal cell carcinoma แพร่กระจายช้า

　　อาการของโรคมะเร็งผิวหนังทางคิลนิก

　　1. สีของผิวหนังที่เป็นมะเร็ง ส่วนใหญ่มีสีน้ำตาล สีแดง สีดำ สีขาวหรือสีฟ้ารวมกันและไม่สม่ำเสมอ หากมีอาการสีของฝ้ามีการเปลี่ยนแปลงต้องระวัง

　　2. ขอบที่เป็นมะเร็งผิวหนังมักจะไม่สม่ำเสมอเปลี่ยนแปลงขรุขระ ก็เป็นสัญญาณแสดงว่ามะเร็งได้มีการค่อยๆพัฒนาตัว

　　3. อาการบนผิวหนัง ผิงหนังไม่ราบรื่น ขรุขระ มีอาการเลือดหรือน้ำซึมออกจากผิวหนัง

　　4. ผิวหนังที่บริเวณรอบๆมะเร็งมีอาการบวมน้ำและสีของผิวหนังปลี่ยนเป็นสีขาวหรือสีเทา

　　5. มีอาการรู้สึกผิวคัน ปวด แสบๆหรือกดแล้วเจ็บ

　　ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่ขอเตือนท่านว่า หากมีอาการที่สงสัยควรจะไปพบแพทย์ทันที