จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขไทยในปี พ.ศ.2561 อุบัติการณ์ของมะเร็งกระเพาะอาหารประมาณ 17.3/10หมื่นคน และอัตราการเสียชีวิตประมาณ 12.2/10หมื่นคน อุบัติการณ์ของมะเร็งปอดประมาณ 39.8/10หมื่นคน และอัตราการเสียชีวิตประมาณ 34.0/10หมื่น อัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายประมาณ 21.7/10หมื่นคน และอัตราการเสียชีวิตประมาณ 5.7/10หมื่นคนในผู้ชาย อัตราการเกิดมะเร็งหลังโพรงจมูกประมาณ 3.0/10หมื่นคน และอัตราการตายคือ ประมาณ 1.6/10หมื่นคน

   ในประเทศไทย เทคนิคการรักษาแบบดั้งเดิม เช่น การผ่าตัด การฉายแสง และเคมีบำบัด มักใช้เพื่อรักษาเนื้องอก ผู้ป่วยมะเร็งมีทางเลือกอื่นในการรักษาหรือไม่ เทคโนโลยีการรักษาแบบแบบบาดแผลเล็ก 18 รายการของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ได้แก่ เทคนิคคีโมเฉพาะจุด เทคนิคมีดคังโบ เทคนิคการฝังแร และเทคนิคมีดนาโน มอบทางเลือกการรักษาที่มากขึ้นสำหรับผู้ป่วยเนื้องอกระยะลุกลามที่ไม่เต็มใจหรือไม่สามารถรับการผ่าตัด รังสีรักษา และเคมีบำบัด .

   การรักษาแบบครอบคลุมที่บาดแผลเล็กสามารถยืดอายุการอยู่รอดและปรับปรุงคุณภาพชีวิตได้จริงหรือ  มาดูกันว่าผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการบำบัดแบบครอบคลุมที่บาดแผลเล็กบอกเล่าประสบการณ์ในการต่อต้านมะเร็งของพวกเขา

เหลียว เจี้ยนฝู: เดินผ่านความมืด โอบรับแสงสว่าง

เหลียว เจี้ยนฝู

   เหลียว เจี้ยนฝู ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารมาจากจาการ์ตา อินโดนีเซีย ในปี พ.ศ. 2558 เขามีอาการไม่สบายท้องและปวดท้องซ้ำ ๆ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่ 3 ในมาเลเซียหลังการตรวจ โรคนี้พัฒนาอย่างรวดเร็วและรุนแรง แพทย์ในมาเลเซียแนะนำให้เขารับการผ่าตัดทันทีและทำเคมีบำบัด แต่เหลียว เจี้ยนฝู ปฏิเสธ เขาได้เรียนรู้ว่าการผ่าตัดแบบดั้งเดิม การฉายแสง และเคมีบำบัดเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก และถึงกับอยากจะเลิกรักษาไปชั่วขณะ แต่กำลังใจและมิตรภาพของภรรยาและลูกชายของเขาทำให้เขาเผชิญกับโรคนี้ในทางบวก และหาวิธีอื่นในการรักษาโรคมะเร็งกระเพาะ .

   ภายใต้การแนะนำของเพื่อนและหลักฐานการรักษาของเขาเอง เขาเลือกและเชื่อถือเทคโนโลยีการรักษาของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดและเดินทางไปกวางโจวพร้อมกับภรรยาของเขาเพื่อรับการรักษา ทีม MDT ของโรงพยาบาลได้กำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับเหลียว เจี้ยนฝู อย่างรวดเร็ว หลังจากการรักษาเทคนิคคีโมเฉพาะจุด4 ครั้งและการรักษาด้วยเทคนิคมีดโฟตอน 2 ครั้ง เนื้องอกเดิมก็หดตัวลง 80% และไม่มีผลข้างเคียงระหว่างการรักษา มีจิตวิญญาณ ความอยากอาหาร และนอนหลับได้ดี

   หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งระยะนี้เหลียว เจี้ยนฝู รู้สึกขอบคุณสำหรับชีวิต สำหรับอนาคต เขาหวังว่าจะพาภรรยาไปเยี่ยมชมสถานที่สวยงามต่างๆ ในโลก ในขณะเดียวกันเขาก็หวังที่จะช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้นและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมากขึ้นในโลกด้วยความสามารถของเขา

>>หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้องอก โปรดคลิก ปรึกษาทันที

โจวซินหยวน: การบำบัดด้วยการแทรกแซงทำให้เนื้องอกของฉันหดตัวลง 90%*

โจวซินหยวน

   โจวซินหยวนเป็นผู้ป่วยมะเร็งปอดจากจาการ์ตา อินโดนีเซีย เดิมทีเขาเป็นครูที่มีความสามารถ แต่เนื่องจากมะเร็งปอดขั้นรุนแรงทำให้เขาต้องอยู่ห่างจากเวทีและออกจากงานที่เขารัก

   ในปี พ.ศ.2559โจวซินหยวนมักจะรู้สึกเจ็บและแน่นหน้าอกด้านขวา การตรวจที่โรงพยาบาลในท้องถิ่นพบก้อนเนื้อบริเวณหน้าอกด้านขวา หลังจากการตรวจชิ้นเนื้อ เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 และเซลล์มะเร็งแพร่กระจายจากปอดโจวซินหยวนตกใจมาก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องเข้าไปพัวพันกับมะเร็งปอดด้วยเหตุที่เขาไม่สูบบุหรี่หรือดื่มเหล้าและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ชีวิตของเขาถูกคุกคาม ซึ่งทำให้เขารู้สึกประหม่าและเจ็บปวดอย่างมาก แต่หัวใจของเขากลับมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะมีชีวิตรอด

   โจวซินหยวนยอมรับคำแนะนำของโรงพยาบาลท้องถิ่นในการรับประทานยาต้านมะเร็ง ในขณะที่มองหาความหวังอื่นในการรักษา ในเวลานี้ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดได้แสดงให้เขาเห็นถึงความหวังของการรักษา และทีมผู้เชี่ยวชาญMDT มืออาชีพได้ปรับแผนการรักษาให้เหมาะกับเขา เนื้องอกเดิมขนาด 2.4*7.5 ซม. ได้รับการรักษาด้วยเทคนิคคีโมเฉพาะจุดสองครั้ง ไม่เพียงแต่อาการเจ็บหน้าอกจะค่อยๆ หายไป แต่การสแกน CT แสดงให้เห็นว่าไม่มีก้อนเนื้อที่ชัดเจนในปอดด้านขวา และเนื้องอกหายไป 90% เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้

   ความเจ็บป่วยครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อโจวซินหยวนเขากล่าวว่า "แม้ว่าคุณจะเป็นมะเร็ง คุณต้องมีความมั่นใจที่จะอยู่รอดโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดสามารถรักษาความเจ็บป่วยของคุณได้เหมือนรักษาฉัน"

>>หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้องอก โปรดคลิก ปรึกษาทันที

สำหรับการรักษามะเร็งปอด ฉันเลือกโรงพยาบาลที่เชื่อถือได้และทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์

จ่าวอัน

   จ่าวอันเป็นผู้ป่วยมะเร็งปอดจากประเทศไทย ในปี 2019 เขาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลท้องถิ่นเนื่องจากไอและเจ็บหน้าอกด้านขวาและหลังด้านขวา แต่หมอบอกว่าเขาเป็นมะเร็ง ในที่สุดเขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดด้านขวาระยะที่ 3 มาพร้อมกับการแพร่กระจายในปอดและการแพร่กระจายของต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง

   เนื่องจากวิธีการรักษามะเร็งในประเทศไทยจำกัดอยู่เพียงการผ่าตัดแบบดั้งเดิม การฉายแสงและเคมีบำบัดอย่างเป็นระบบจ่าวอันจึงไม่ได้ทำการรักษาใด ๆ แต่ได้เรียนรู้และเปรียบเทียบเทคนิคการรักษาแบบ บาดแผลเล็ก 18 เทคนิคของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ทีมแพทย์มืออาชีพ และเคสที่ประสบความสำเร็จมากมาย และในที่สุดก็เดินทางมารักษาที่กวางโจว ประเทศจีน

   เมื่อเขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล สภาพร่างกายของจ่าวอันย่ำแย่มาก อาการปวดหลังอย่างรุนแรงทำให้เขาต้องนอนพักบนเตียง แต่ไม่ว่าเขาจะนอนราบหรือนอนตะแคงก็ทำให้ปวดหลังอย่างรุนแรงได้ เมื่อไอความเจ็บปวดจะรุนแรงขึ้น

   หลังจากการวินิจฉัยและการรักษาร่วมกัน ทีม MDT ของโรงพยาบาลได้กำหนดแผนการรักษาส่วนบุคคลสำหรับจ่าวอัน: การรักษาด้วยการฝังแร่ + เทคนิคแบบบาดแผลเล็ก + การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันของยีน + เทคนิคคลื่นความถี่ไมโครเวฟ  ภายใต้การรักษาอย่างครอบคลุมของระบบ อาการปวดหลังของจ่าวอันได้รับการบรรเทาลง ไม่เพียงแต่ควบคุมอาการได้ดีแล้ว เนื้องอกในปอดด้านขวาก็หดตัวลงมาก และรอยโรคในระยะแพร่กระจายในส่วนอื่นๆ ก็หายไปด้วย

   จ่าวอันกล่าวว่า "โรงพยาบาลมีทีมแพทย์ที่ดีมากและเทคโนโลยีต่อต้านเนื้องอกขั้นสูง ผมหวังว่าผู้ป่วยที่รักษาที่นี่จะสามารถเอาชนะมะเร็งอย่างฉันได้อย่างรวดเร็วหลังจากผ่านการรักษาแบบครอบคลุมที่บาดแผลเล็ก"

>>หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้องอก โปรดคลิก ปรึกษาทันที

ปฏิเสธการผ่าตัด! สำหรับมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย ฉันเลือกการรักษาแบบแบบบาดแผลเล็ก

ฮวง รุ่ยจิน

ฮวง รุ่ยจิน เป็นผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากจากมาเลเซีย เขาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลท้องถิ่นเนื่องจากมีอาการต่างๆ เช่น ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่สมบูรณ์และปวดปัสสาวะซึ่งส่งผลต่อชีวิตของเขาอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เขาไม่ทันตั้งตัวและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย มะเร็งต่อมลูกหมากที่มีการแพร่กระจายของกระดูก ในขณะที่ได้รับการวินิจฉัย เขาบอกว่าเขาไม่สามารถให้การรักษาใด ๆ ได้เนื่องจากอายุของเขา

   ฮวง รุ่ยจิน ไม่เต็มใจที่จะสละชีวิตของเขาเลยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ในมาเลเซีย แต่ได้รับแจ้งว่าไม่มีทางรักษาหรือมีเพียงการผ่าตัดและเคมีบำบัดเท่านั้นที่สามารถควบคุมอาการของเขาได้ อย่างไรก็ตามฮวง รุ่ยจิน ปฏิเสธเพราะเขาไม่สามารถรับการรักษาแบบดั้งเดิมได้เนื่องจากอายุและสภาพร่างกายของเขา

   เมื่อเขาอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกฮวง รุ่ยจิน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคแบบบาดแผลเล็กของ　โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดซึ่งเหมาะกับความเจ็บป่วยและสภาพร่างกายของเขาที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีดั้งเดิมได้ นอกจากนี้ เขายังแบ่งปันเรื่องมะเร็งเต้านมกับเขาด้วยประสบการณ์ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทำให้เขามีความมั่นใจที่จะไปรักษาที่เมืองกว่างโจว ประเทศจีน

   ทีมผู้เชี่ยวชาญของ MDT ได้ปรับแต่งการรักษาด้วยการฝังแร่และการรักษาอื่นๆ สำหรับฮวง รุ่ยจิน ตอนแรกมีเนื้องอกขนาดใหญ่ขวางและกดทับท่อปัสสาวะทำให้เกิดอาการปัสสาวะลำบาก และดัชนี PSA สูงถึง 25.6ng/ml หลังจากการรักษาตามระบบแล้วเนื้องอกของเขาก็หดตัวลงอย่างมาก อาการปัสสาวะลำบากและความเจ็บปวดก็หายไป และหลังจากนั้น หนึ่งเดือน ดัชนี PSA ลดลงเหลือ 0.2ng /ml ครั้งหนึ่ง ครอบครัวและเพื่อน ๆ ของเขาคัดค้านอย่างรุนแรงในการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ด ฮวง รุ่ยจิน ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าการคงอยู่ของเขาถูกต้องและเขาพบความหวังในการรักษาที่นี่

>>หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้องอก โปรดคลิก ปรึกษาทันที

ด้วยเทคนิคแบบบาดแผลเล็กทำให้มะเร็งหลังโพรงจมูกระยะที่สี่ไม่น่ากลัวอีกต่อไป*

อันนี

   อันนีเป็นผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกจากจาการ์ตา อินโดนีเซีย ในปี 2014 จู่ๆ เธอก็มีอาการหูอื้อและรูจมูกอุดตัน แต่ได้รับการวินิจฉัยผิดว่าเป็นหวัดและการรักษาล่าช้า เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งโพรงจมูกระยะที่ 3 หลังจากการตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลในท้องถิ่น อันนีรับไม่ได้กับความจริงข้อนี้ และไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลหลายแห่งในอินโดนีเซีย แต่ก็ไม่มีใครเปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอเป็นมะเร็งได้

   แม้ว่าอันนีจะเสียใจกับข่าวร้าย แต่อันนีและสามีก็ไม่สิ้นหวัง พวกเขาค้นหาโรงพยาบาลมะเร็งใหญ่ๆ ทุกแห่งในพื้นที่และแนะนำให้ทำเคมีบำบัดทันที เมื่อทราบถึงผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ของเคมีบำบัดทั้งระบบ แอนน์และสามีของเธอจึงปฏิเสธการรักษานี้อย่างเด็ดขาด

   โชคดีที่อันนีและสามีของเธอได้รู้จักโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสแตมฟอร์ดผ่านทางอินเทอร์เน็ต โรงพยาบาลนี้ ไม่เพียงแต่มีทีมผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติแต่ยังมีเทคนิคการรักษาเนื้องอกแบบบาดแผลเล็กขั้นสูงอีกด้วยอันนีมากับครอบครัวที่กวางโจว ประเทศจีน เพื่อรับการรักษา โดยไม่คาดคิด อาการของเธอทรุดลงจนเป็นมะเร็งโพรงหลังจมูกระยะที่ 4 ในเวลาเพียง 2 เดือน และการรักษาเป็นเรื่องเร่งด่วน

   ในที่สุดทีมผู้เชี่ยวชาญ MDT ก็ตัดสินใจรักษาด้วยเทคนิคแบบเฉพาะจุดเพื่อรักษาอันนีตามสภาพของเธอ หลังจากการรักษา 2 ครั้ง "อาการคัดจมูกและหูอื้อของฉันหายไปหมดแล้วฉันแทบไม่รู้สึกถึงก้อนเนื้อที่อยู่หลังหู .“อย่ายอมแพ้ ยึดติดกับการรักษา ใส่ใจทานอาหารที่มีประโยชน์ รักษานิสัยที่ดี เชื่อเถอะว่าอาการจะดีขึ้น!” ก่อนออกจากโรงพยาบาลอันนี ไม่ลืมให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็งคนอื่นๆ หวังว่าผู้คนจำนวนมากจะต่อสู้กับมะเร็งด้วยกันและชนะ!

>>หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้องอก โปรดคลิก ปรึกษาทันที