คุณมีอาการไอเรื้อรัง ควบคุมไม่ได้ไหม ไอมีเสมหะเป็นเลือดและเจ็บหน้าอกหรือเปล่า ถ้าหากคุณมีอาการเหล่านี้ เข้าพบแพทย์อย่างต่อเนื่องมาสองอาทิตย์แล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ควรระวังว่าอาจจะเป็นมะเร็งปอด มะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่มีอัตราการเกิดโรคและอัตราการตายจากโรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยอากาศเป็นพิษที่มีมากขึ้นทุกวัน มีกลุ่มคนสูบบุหรี่มากขึ้น ทำให้ผู้คนบนโลกนี้ถูกมะเร็งปอดคุกคามมากขึ้นเรื่อยๆ หันมาเอาใส่ใจการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ของร่างกาย และพบอาการผิดปกติเล็กๆ ได้ทันการ แล้วรีบตรวจหามะเร็งปอด ซึ่งเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่งเลยทีเดียว

　　โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเตือนให้สังเกตดูอาการเหล่านี้ :

　　1.อาการไอ :เนื่องด้วยขนาดและตำแหน่งของก้อนเนื้อไม่เหมือนกันก็จะส่งผลให้อาการไอไม่เหมือนกันทั้งไอแห้ง ไอเป็นระยะ ไอหอบและไอเสียงดัง

　　2.ไอเป็นเลือดหรือเสมหะมีเลือด: ประมาณ 15% ของผู้ป่วยที่ไอมีเสมหะ เสมหะจะมีสีขาว แต่เมื่อมีเนื้องอกจะไอออกมาเป็นเลือดซึ่งอาจจะมีเลือดออกมาตลอดหรือเป็นแค่ช่วงหนึ่ง 25-40%ของผู้ป่วยมะเร็งปอดจะไอเป็นเลือด ถ้าเกิดมีอาการไอมีเสมหะบ่อยๆ ก็สามารถตรวจเช็คจากเสมหะได้

　　3.เจ็บหน้าอก: รู้สึกไม่สบายบริเวณหน้าอก เมื่อก้อนมะเร็งมีการลุกลามแล้วส่งผลให้เจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงและเป็นเวลานาน

　　4.อาการหอบ: ถ้าหากไม่เคยมีโรคหอบมาก่อน แต่เวลาหายใจมีเสียงหอบ ก็อาจะเป็นมะเร็งปอดได้

　　5.มีไข้: เนื่องด้วยหลอดลมอุดตัน ของเหลวในร่างกายไม่สามารถไหลผ่านได้จึงเกิดอาการอักเสบได้หลายระดับ เมื่อมีอาการไอ เป็นไข้ สามารถตรวจโดยการเอ็กซเรย์หรือส่องกล้องที่หลอดลมได้

　　6.ส่วนบริเวณศีรษะบวมโต: มีอาการผิวหนังแดงช้ำ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คัดจมูกเหล่านี้เป็นต้น เมื่อนอนหงายอาการยิ่งเป็นหนักขึ้นหรือตรงบริเวณแขนและส่วนศีรษะบวมโต อาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นได้เมื่อเป็นมะเร็งปอด

　　7. บริเวณต่อมน้ำเหลืองกระดูกไหปลาร้าบวม ：บริเวณไหปลาร้าส่วนบนมีอาการต่อมน้ำเหลืองบวม เมื่อกลายเป็นระยะสุดท้ายแล้วจะกลายเป็นเนื้องอกร้าย

　　8.กลืนลำบาก: มะเร็งปอดที่มีการลามไปต่อมน้ำเหลืองบริเวณหน้าอก จะเกิดการกดทับหลอดอาหารทำให้กลืนได้ลำบาก

　　แน่นอนว่าเมื่อคุณพบอาการผิดปกติเหล่านี้ ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมะเร็งปอดเสมอไป แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ทางที่ดีก็ควรรีบไปตรวจร่างกายวินิจฉัยดูว่าเป็นมะเร็งปอดหรือไม่ และหากตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอด การตรวจก่อนล่วงหน้าจะช่วยให้ได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์เร็วขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย