เมื่อร่างกายของคุณมีก้อนเนื้อแข็งก้อนหนึ่งเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ปวด ไม่คัน แต่ก็อย่าละเลยอาการที่มีอยู่นี้ เพราะอาจจะเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองก็เป็นได้ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเกิดจากเนื้อร้ายของต่อมน้ำเหลืองหรือเนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลือง ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบเนื้อร้ายที่พบเห็นได้บ่อย ไม่กี่ปีมานี้ อัตราการเกิดโรคเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากตัวเลขในรายงานการประชุมด้านมะเร็งต่อมน้ำเหลืองนานาชาติพบว่า ในทุกๆ 9 นาที ทั่วโลกจะมีเคสใหม่เกิดขึ้น 1 เคส หากพบอาการในร่างกายเร็ว และทำการตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อขั้นตอนทางการแพทย์ในลำดับต่อไป ยืดอายุของผู้ป่วยออกไปได้

　　อาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีอะไรบ้าง?

　　1. อาการตามร่างกาย : ก่อนพบว่าต่อมน้ำเหลืองโตหรือขณะที่ต่อมน้ำเหลืองโตนั้นอาจปรากฏอาการตามร่างกาย เช่น เป็นไข้ คันตามผิวหนัง เหงื่อออกในขณะนอนหลับ รวมถึงผอมแห้ง น้ำหนักลด เป็นต้น หากไม่รู้ชัดเจนถึงสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการข้างต้น สามารถทำการตรวจเลือดทั่วไป เพื่อตรวจดูต่อมน้ำเหลืองได้

　　2. ต่อมน้ำเหลืองบวมโต : เป็นอาการทั่วไปที่เห็นได้ชัดที่สุดของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ไม่รู้สึกเจ็บปวดตรงบริเวณก้อนเนื้อ แต่ก้อนเนื้อจะค่อยๆ บวมโตขึ้น ผิวเรียบ เมื่อคลำสัมผัสจะรู้สึกเหมือนลูกปิงปอง หรือเหมือนส่วนแข็งของปลายจมูก มักพบต่อมน้ำเหลืองบวมโตมากที่สุดตรง บริเวณลำคอและกระดูกไหปลาร้า เมื่อพบว่าต่อมน้ำเหลืองบวมโต สามารถทำการตรวจเนื้อเยื่อได้ ซึ่งโดยปกติควรเลือกตรวจต่อมน้ำเหลืองบริเวณใต้ลำคอหรือบริเวณรักแร้ นี่เป็นวิธีการตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ไม่อาจขาดได้

　　3. รอยโรคที่ผิวหนัง

　　ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะมีรอยโรคปรากฏที่ผิวหนังมากมายซึ่งมีความเกี่ยวข้องกัน เช่น มีจุดแดงเป็นจ้ำๆ มีตุ่มพอง มีแผลเปื่อย เป็นต้น ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้ายซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ ผิวหนังที่ติดเชื้อจึงมักจะเน่าเปื่อย มีของเหลวไหลซึมออกมา

　　ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเตือนว่า เมื่อผู้ป่วยปรากฏอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเสมอไป แต่ก็ควรรีบไปตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล หากวินิจฉัยแล้วว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อขั้นตอนทางการแพทย์ในลำดับต่อไป และยกระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นอีกด้วย