- ข่าวสารโรคมะเร็ง
- ■ มะเร็งช่องคลอด
- ■ การวินิจฉัยมะเร็งช่องคลอด
- ■ ขั้นตอนทางการแพทย์สำหรับมะเร็งช่องคลอด
มะเร็งช่องคลอดแบบปฐมภูมิเป็นมะเร็งที่พบได้น้อยมาก มะเร็งชนิดนี้มีเพียง 1% ของมะเร็งในอวัยวะเพศหญิงทั้งหมด ส่วนมากจะมีเซลล์มะเร็งชนิด Squamous cell carcinoma และมะเร็งชนิดอื่นๆอย่างเช่น มะเร็งชนิดต่อม มะเร็งซาร์โคมา (Sarcoma) และมะเร็งไฝ (malignant melanoma) ซึ่งพบได้น้อยมาก แพทย์หลายท่านก็พบเคสผู้ป่วยแบบนี้ได้น้อยมาก
ในขณะที่มะเร็งช่องคลอดแบบทุติยภูมินั้นจะพบได้มากกว่า ซึ่งอาจจะเกิดจากการลุกลามมาจากมะเร็งปากมดลูกโดยตรงหรือเกิดจากการลุกลามของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งรังไข่ และมะเร็งครรภ์ไข่ปลาอุก นอกจากนี้แล้ว เซลล์มะเร็งจากกระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะหรือลำไส้ตรงก็สามารถลามไปที่ส่วนของช่องคลอดได้เช่นกัน ดังนั้นแล้วผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวจึงแนะนำว่า ก่อนที่จะวิเคราะห์มะเร็งแบบปฐมภูมิควรที่จะคำนึงและกำจัดความเป็นไปได้ของมะเร็งช่องคลอดแบบทุติยภูมิออกก่อน (มะเร็งช่องคลอดที่มีจุดต้นกำเนิดมาจากส่วนอื่น) แล้วอาการของมะเร็งช่องคลอดนั้นมีอะไรบ้าง
1.ช่องคลอดมีเลือดออกมาผิดปกติ
ส่วนมากคือมีอาการเลือดออกเนื่องจากการเสียดสี ซึ่งมักจะเกิดขึ้นหลังจากมีเพศสัมพันธ์หรือหลังจากหมดประจำเดือนแล้ว อาการนี้เป็นอาการหลักของมะเร็งช่องคลอด ดังนั้นแล้ว เมื่อผู้หญิงที่พบว่าตนเองมีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ควรรีบไปโรงพยาบาลดำเนินการตรวจที่แผนกสูตินรีเวช เพื่อดูความเป็นไปได้ของการเป็นมะเร็งช่องคลอด
2. ช่องคลอดมีการขับของเหลวออกมาผิดปกติ
ช่องคลอดมีการขับของเหลวออกมาผิดปกตินั้นส่วนมากจะมีความเกี่ยวข้องกับเซลล์มะเร็งที่ตายแล้วหรือการติดเชื้อ ของเหลวที่ขับออกมานั้นอาจมีลักษณะเหมือนน้ำ หรืออาจจะมีลักษณะเหมือนน้ำข้าวได้เช่นกัน หรือแม้กระทั่งมีเลือดปนออกมากับของเหลวด้วย หากมีอาการเหล่านี้สามารถตรวจโดยวิธีแปปสเมียร์ได้ เพื่อง่ายต่อการแยกแยะโรคได้ในระยะแรก
3. อาการกดทับ
เมื่อก้อนเนื้อกดทับอวัยวะข้างเคียง ก็จะทำให้เกิดอาการถูกกดทับ อย่างเช่นเมื่อมีการกดทับถูกกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะ จะทำให้มีอาการไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ ปัสสาวะบ่อยหรือปัสสาวะเป็นเลือด เมื่อมีการกดทับบริเวณลำไส้ตรง ก็จะมีอาการถ่ายลำบาก ผู้ป่วยมะเร็งช่องคลอดระยะสุดท้ายยังอาจจะมีอาการอุจจาระออกมาเป็นเลือดได้อีกด้วย เป็นต้น ซึ่งในกรณีแบบนี้สามารถตรวจโดยการเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลเพื่อความแน่ชัดได้
4. อาการอื่นๆ
หากมีการลุกลามไปที่ปอดอาจจะมีอาการไอหรือไอเป็นเลือด อาจลามไปบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ในระดับตื้นและต่อมน้ำเหลืองที่บวมโต เป็นต้น รอยโรคในช่องคลอดที่พบเห็นบ่อยที่สุดมักจะเป็นชนิดพาพิลลารีหรือลักษณะเหมือนดอกกะหล่ำ รองลงมามีลักษณะเหมือนรอยแผลหรือลักษณะเป็นฝ้า
ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแนะนำว่า หากมีอาการเลือดออกผิดปกติบริเวณช่องคลอด หรือมีการขับของเหลวเพิ่มขึ้นตรงช่องคลอด ควรรีบไปโรงพยาบาลดำเนินการตรวจโดยเร็วที่สุด แม้จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งช่องคลอด ก็อย่าเพิ่งตระหนกมากเกินไป เพราะในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆได้พัฒนาไปมากมาย ผู้ป่วยควรจะเผชิญหน้า และเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีในการดูแลผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น
ติดตามข้อมูลข่าวสารและเกร็ดความรู้ดีๆจากเราได้ที่
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
*หมายเหตุ : ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
*ประกาศ : การผ่าตัดจะให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดีต่อมะเร็งระยะแรก ที่เป็นมะเร็งชนิดเป็นก้อน (Solid Tumor) แต่อาจจะไม่เหมาะในการใช้กับมะเร็งระยะสุดท้าย สำหรับผู้ป่วยระยะกลาง ไปจนถึงระยะสุดท้ายที่มีภูมิต้านทานในร่างกายต่ำ เทคโนโลยีแบบบาดแผลเล็ก บูรณาการร่วมกับการคีโมและการฉายแสง จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วย ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น